สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๐
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้โปรดเกล้าพระราชทานแต่งตั้งสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๒๐ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงพระนามว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อัมพร อมฺพโร)

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช ปัจจุบันทรงเป็นกรรมการคณะธรรมยุติ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยและแม่กองงานพระธรรมทูต ด้านการบรรพชาอุปสมบท ได้บวชเป็นเณรเมื่ออายุเพียง ๑๐ ปี ที่จังหวัดราชบุรีและเข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๑ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สกลมหาสังฆปริณายก เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังอุปสมบทได้ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักเรียนวัดราชบพิธฯ จนสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค ต่อมาเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จบศาสนศาสตรบัณฑิตและได้เดินทางไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท ณ มหาวิทยาลัยพาราณสี (Banaras Hindu University) ประเทศอินเดีย จบการศึกษา ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี นอกจากนี้ยังได้รับการถวายศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์จากสภามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาธรรมนิเทศ จากสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

การดำเนินชีวิตในร่มกาสาวพัตร์ของพระองค์เป็นไปอย่างสมถะและมักจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่วัดในดินแดนห่างไกล นอกจากนี้พระองค์ยังอุทิศเงินที่ได้จากการบริจาคในการสร้างโรงเรียนเพื่อมอบการศึกษาและยังส่งไปให้มูลนิธิธรรมต่างๆเพื่อเป็นการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนา พระองค์เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตนำพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ตามคำนิมนต์ของประธานพุทธสมาคมแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้วางรากฐานพระพุทธศาสนาจนแผ่ขยายไปยังเมืองใหญ่อีกหลายเมือง เช่น กรุงแคนเบอร์รา นครเมลเบิร์น และเมืองดาร์วิน เป็นต้น

ในฐานะที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระสังฆราชซึ่งเป็นประมุขสูงสุดทางพระศาสนาของประเทศไทย พระองค์จึงทรงเป็นพระอุปภัมภ์ขององค์การ พ.ส.ล. ตามธรรมนูญขององค์การฯ พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อท่านแผน วรรณเมธีซึ่งเป็นประธานและองค์การ พ.ส.ล.ในการดำเนินกิจกรรมและภารกิจต่างๆเสมอมา

พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชจะได้จัดให้มีขึ้น ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานครในวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๐